Trip India
11-20 ก.พ. 2556
ทริบ จาริกแสวงบุญ ประเทศอินเดีย-เนปาล ไปกับคณะวัดเขาวัง
โดยมีท่าน พระมหาศุภวัฒน์ สุภทโท หัวหน้าคณะ สู่ดินแดนพุทธภูมิ บริษัทธรรมหรรษาทัวร์
แอนด์ แทรเวล จำกัด เป็นผู้นำไปยังสถานที่ในพุทธประวัติ ได้แก่ สถานที่ประสูติ
ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา ปรินิพพาน ได้ทำบุญไหว้พระ สวดมนต์ ทอดผ้าป่า
ซึมซับประวัติของพระพุทธองค์ ได้ชม ได้เห็นสถานที่จริงในครั้งพุทธกาล ทั้ง 4 ตำบล
นอกจากนั้น ยังได้ชมความงามของ ทัชมาฮาล หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก พระราชวัง อัคราฟอร์ด ตลอดจนได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอินเดียในชนบท
รวมทั้งสิ้น 9 คืน 10 วัน ค่าใช้จ่าย คนละ 39,900 บาท อุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-25 องศา รวมคณะที่เดินทางจำนวน
53 คน ช่วงที่ไปเงินไทย 1,000 บาท
แลกได้ 1,500 รูปี เวลาซื้อของสามารถใช้เงินไทยได้ แขกชอบเงินไทย เวลาที่อินเดียจะช้ากว่าเมืองไทย
1.30 ชั่วโมง
เส้นทางการเดินทาง
จากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ สนามบินอินทิราคานธี เมืองนิวเดลฮี
ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย แล้วเดินทางลงทางใต้ โดยรถบัส 1 คัน รถตู้ 1 คัน
ข้ามผ่านพรมแดนอินเดีย สู่เนปาล แล้วกลับเข้าสู่อินเดีย ลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้
คณะพักโรงแรม 3 คืน อีก 6 คืน พักที่วัดไทยตามรายทางทั้งหมด ขากลับขึ้นเครื่องที่
สนามบินโกลกัตต้า
แผนที่เดินทางในอินเดีย
เดินทางจากทางซ้าย ไปทางขวา ลงมาทางตอนใต้
11 ก.พ. 56 (สนามบิน
สุวรรณภูมิ – สนามบินอินทิราคานธี นิวเดลฮี)
สนามบินอินทิราคานธี เสียเวลารออยู่สองชั่วโมง
ช่วงบ่ายแวะชมอินเดียเกต (สนามหลวงอินเดีย)
มีจิตกาธานสถานที่เผาศพของ มหาตมะคานธี และอนุสรณ์สถาน สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่นี่เป็นที่ผักผ่อนหย่อยใจของชาวอินเดีย
จากนั้น ผ่านไปยังวัดฮินดู แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากเป็นวันหยุดพอดี
จิตกาธานมหาตมะคานธี
สนามหลวงอินเดีย
รถขายไอติม
ถั่วมัน ๆ จะนาย
วัดฮินดู ปิด เข้าไปชมข้างในไม่ได้
เดิมที มีกำหนดพักที่นิวเดลฮี แต่เปลี่ยนโปรแกรมเดินทางยาวลงทางใต้ไปที่เมือง
อัครา (Agra) ประมาณ 200 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง เข้าพักที่โรงแรมชื่อ Ganga
Ratan Hotel พักที่นี่ 2 คืน
12 ก.พ. 56 (ทัชมาฮาล -
พระราชวังอัครา)
Agra เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำยมนา
เวลา 9.00 น. คณะเดินทางไปเข้าชมทัชมาฮาล (Taj Mahal) สร้างโดยพระเจ้าชาจาฮาล
รัชกาลที่ 5 ราชวงศ์โมกุล สร้างให้พระนางมุมตัส อัครมเหสี
เป็นสิ่งแทนความรักอันยิ่งใหญ่ ใช้เวลาก่อสร้าง 22 ปี
พ.ศ. 2174- 2196 โดยสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว อมชมพู แกะสลักลวดลาย
ภายในเป็นที่ฝังพระศพของพระเจ้าชาจาฮาล และพระนางมุมตัส
ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป มีแต่บริเวณด้านนอก
ช่วงบ่าย เดินทางไปยังพระราชวัง อัคราฟอร์ด (Agra Forth) ซึ่งเป็นพระราชวังที่ลูกของพระเจ้าชาจาฮาลได้สร้างขึ้น
สร้างด้วยหินทรายสีแดง และเป็นที่คุมขังพระเจ้าชาจาฮาล
พระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ชัดเจน ซึ่งตามประวัติ พระเจ้าชาจาฮาล
จะเสด็จออกมามองทัชมาฮาลทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น จนพระองค์สิ้นพระชนม์ ณ
พระราชวังแห่งนี้
พระราชวังอัคราฟอร์ด
สาวญี่ปุ่นในชุดส่าหรี่
มองเห็นทัชมาฮาล ริมฝั่งแม่น้ำยมนา
ด้านหลัง ลิบ ๆ ประมาณ 5 ก.ม. คือทัชมาฮาล ริมฝั่งแม่น้ำยมนา
มหารานี มหาราชา
ภายในสวนของวัง
13 ก.พ. 56 (วัดไทยสาวัตถี)
วันที่สาม คณะเดินทางทั้งวัน
จากเมืองอัครา ไปยังเมืองสาวัตถี ระยะทาง 580 ก.ม. ไปทางตะวันตก ถึงวัดไทย สาวัตถีธรรมวิปัสสนา ประมาณ 2 ทุ่ม หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่ทางวัดเตรียมไว้แล้ว
ซึ่งเป็นอาหารไทย ๆ คณะได้ร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ให้กับวัดได้เงินทำบุญประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท รวมเงินรูปีอีกประมาณ 6,700 รูปี แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน ณ ห้องพักของวัด พักห้องละ
สองคน วัดใช้เครื่องปั่นไฟ ประมาณ 5 ทุ่ม ก็ต้องดับเครื่องปั่น เพื่อประหยัดน้ำมัน
เปิดใหม่ตอนเช้ามืด ตีสี่
14 ก.พ. 56 (วัดเชตะวัน)
คณะเก็บกระเป๋าเดินทางไปยังวัดเชตวัน
ในเมืองสาวัตถี (Sravasti) ซึ่งในครั้งพุทธกาล
พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษาที่วัดแห่งนี้นานที่สุดคือ 19 พรรษา เข้าชมสถานที่สำคัญต่าง
เช่น กุฏิที่ประทับ และกุฏิของสาวกองค์ต่าง ๆ เช่น พระโมคลา พระสาลีบุตร องคุลีมาล
ฯลฯ คณะได้เข้าไปไหว้พระสวดมนต์ ขอพร และเวียนเทียน ได้ความสุขทางใจอย่างแท้จริง
บริเวณวัดไทยสาวัตถีธรรมวิปัสนา
บริเวรวัดเชตวัน ที่พระพุทธองค์จำพรรษานาน 19 พรรษา
สาวก ภายในวัดฯ
สาธุ สาธุ
กลางวัน กลับไปรับประทานอาหารที่วัดไทยสาวัตถีธรรมวิปัสสนา
ที่พักเมื่อคืน จากนั้นเดินทางไปทางตะวันตกอีก 260 กม. ชายแดนอินเดีย – เนปาล
แวะพักที่วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 รับประทานข้าวเย็นกันที่วัดนี้
ช่วงค่ำ ข้ามพรมแดนไปยัง เนปาล
ซึ่งอยู่ไม่ไกลประมาณ 30 ก.ม. ถึงโรงแรมที่พัก
(Zambala Lumbini) ประมาณ 7.30
น.ที่นี่มี Wifi ให้ใช้ที่ห้องโถงของโรงแรม แยกย้ายกันพักผ่อน
15 ก.พ. 56 (สถานที่ประสูติ ลุมพินี ประเทศเนปาล – สถานที่ปรินิพพาน
เมืองกุสินารา อินเดีย)
ออกเดินทางจากโรงแรมแต่เช้า
เพื่อไปยังสวนลุมพินี สถานที่ประสูติ บริเวณแห่งนี้ ประกอบด้วย
เสาหินที่พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างไว้ เป็นจุดที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ
หลังจากประสูติจากครรภ์มารดา ทรงเดินไป 7 ก้าว เป็นสิ่งปลูกสร้างเรียกว่า
มหามายาวิหาร คณะเข้าไปด้านในของวิหารฯ สักการะ และเวียนเทียน ไหว้พระสวดมนต์ ขอพร
ด้านข้างวิหาร มีสระน้ำ เรียกว่าสระโบกขรณี
ที่พระมารดาทรงไปล้างตัวหลังจากทรงมีพระประสูติ
เสา ที่พระเจ้าอโศกทรงสร้าง และวิหารมายาเทวี
สระโบกขรณี ที่พระนางสิริมหามายาทรงชำระร่างกายหลังมีพระประสูติ
นักบวชในพุทธศาสนาจากทั่วโลกมาสวดมนต์ทำสมาธิ
คณะทอดผ้าป่าถวายวัดไทยรัตนาราม 960
กลางวัน
เดินออกจากเนปาล กลับสู่ชายแดนอินเดีย ไปรับประทานอาหาร ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม 960
เสร็จแล้วมีการทำบุญทอดผ้าป่า ที่วัดนี้ ได้เงินเข้าวัดประมาณ 13,000 บาท และ 3,000 รูปี จากนั้นคณะออกเดินทางลงทางใต้อีกประมาณ 170 ก.ม. มุ่งหน้าไปเมือง
กุสินารา ถึงประมาณ 4 โมงเย็น เข้าชมสถูป สถานที่พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน คณะเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธอนุฏฐไสยาสน์
พระนอนปางปรินิพพาน สร้างเมือง พ.ศ. 960
สถานที่เสด็จปรินิพพาน เป็นสถูป ภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน
ช่วงเย็นเดินทางไปพักที่วัดไทยกุสินาราและรับประทานอาหารประมาณสองทุ่ม
จากนั้นร่วมกันทอดผ้าป่าถวายวัดแล้วแยกย้ายไปพักผ่อน พักรวมกันห้องละ 6 คน
มีห้องน้ำในตัว
ทอดผ้าป่าถวายวัดไทยกุสินารา
เจ้าอาวาสแจกของให้คณะ
นมัสการพระบรมสารีรีกธาตุ
16 ก.พ. 56 (ปฐมเทศนา พาราณสี)
ตื่นกันแต่เช้ารับประทานอาหาร
นมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ในวัดไทยกุสินารา แล้วเดินทางไปประมาณ 1 ก.ม.
ไปนมัสการมกุฏพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ พระพุทธเจ้า คณะสวดมนต์ ขอพร และเวียนเทียนรอบเจดีย์
ไหว้พระสวดมนต์บริเวณสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า
ช่วงสายเดินทางต่อไปเมืองพาราณสี ( Vanarasi) เมืองหลวงแคว้น กาสี 280 ก.ม. ระหว่างทางฝนกระหน่ำตลอดทาง
รับประทานข้าวกล่องที่เตรียมมากันบนรถ เข้าชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ และ
ถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งเป็นสถานที่แสดงปฐมเทศนา โปรดปัญจวคีย์
ที่เกิดแห่งวันอาสฬหบูชา ฝนหยุดตก มีแสงแดดออกให้คณะเข้าไปสวดมนต์ เวียนเทียน
พอเสร็จพิธีช่วงก่อนค่ำ ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก
ช่วงค่ำคณะรับประทานอาหารเย็นและพักที่วัดไทยสารนาถ มีการทำบุญทอดผ้าป่าอีก
ได้เงินแสนกว่าบาท รวมสบทบในการสร้างห้องพักให้กับทางวัด ที่มีผู้บริจาคเพิ่มเติมอีก
3 ห้องพัก
บริเวณวัดไทยสารนาถ
17 ก.พ. 56 (ล่องแม่น้ำคงคา –
พุทธคยา )
เช้าออกจากวัดไทยสารนาถเพื่อจะไปล่องเรือที่แม่น้ำคงคาที่ไหลผ่านเมือง
พาราณสี ล่องเรือระยะทาง 5 ก.ม. ไป-กลับ
ชมสภาพความเป็นอยู่ระหว่างสองฝากฝั่ง มีผู้คนมาใช้อาบ ซักล้าง
ทำพิธีบูชาพระแม่คงคา ของชาวอินเดีย เพราะถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์
ของชาวฮินดูซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการเผาศพที่ทำกันริมแม่น้ำแห่งนี้
แม่น้ำคงคา
ผู้คนใช้ อาบ ดื่ม กิน
เผาศพกันริมแม่น้ำ
จากนั้นเดินทางลงมาทางใต้สู่พุทธคยา
เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า มีต้นพระศรีมหาโพธิ์ และสถูปเจดีย์ พุทธคยา ณ ที่นี้เป็นสถานที่สงบ ร่มรื่น
มีผู้คนมากมายจากทุกสารทิศทั่วโลก มาแสวงบุญ ยิ่งในช่วงกลางคืน
ตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า จะมีชาวพุทธมานั่งสมาธิ เวียนเทียน อยู่รอบ ๆ พุทธคยา มีผู้ร่วมคณะบางท่าน
เดินทางมาที่แห่งนี้เป็นครั้งที่ 7 บางท่าน ครั้งที่ 5 บางท่านครั้งที่ 3
สำหรับผมเองเพิ่งมาเป็นครั้งแรก และคิดว่า ถ้ามีโอกาส ยังอยากจะมาอีก
คณะพักกันที่วัดไทยปากน้ำอินเดีย พักที่วัดนี้ 2 คืน
เจดีย์พุทธคยา กลางวัน
นักบวชทิเบต
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
พุทธคยา กลางคืน
18 ก.พ. 56 (ราฃคฤห์ วัดเวฬุวัน มหาวิทยาลัยนาลันทา)
ช่วงเช้าชมมหาวิทยาลัยนาลันทา
มหาวิทยาลัยทางพุทธศาสนา หลังจากนั้นไปนมัสการหลวงพ่อดำที่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ถูกทำลายโดยพวกอิสรามสมัยโบราณ
ขึ้นเขาคิชกูฏ นมัสการพระคันธกุฏี
ที่ประทับของพระพุทธเจ้า กุฏีพระอานนท์ ถ้ำที่พระสาลีบุตรบรรลุพระอรหันต์
ถ้ำที่อยู่พระมหาโมลคัลลา ชะโงกเขาที่พระเทวทัตกลิ้งหินใส่พระพุทธเจ้า
เขาคิชกูฎิ
สวดมนต์ บริเวณกุฏิของพระพุทธเจ้า บนเขาคิชกูฏิ
มีสาวก มาเฝ้าดูพวกเราด้วย
ชาวตะวันตกก็มาทำสมาธิ
บริเวณมหาวิทยาลัยนารันทา
อีนี่ แขกยาม นะนาย
บ้านนางสุชาดา
แขกเรียกงู
รถบรรทุก
อาทิตย์อัสดง ที่เขาคิชกูฏ
ตลาดซื้อขายพืชผัก ผลไม้
แปลงสีฟันตอนเช้า ๆ ใช้กิ่งไม้ทุบปลายเป็นแปลง
เจดีย์พุทธคยาและต้นพระศรีมหาโพธิ์
19 ก.พ. 56 (แม่น้ำเนรัญชรา กลับเมืองไทย)
เช้าคณะไปขมบ้านนางสุชาดา
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราตรงกันข้ามกับ เจดีย์ พุทธคยา
ซึ่งปัจจุบันเหือดแห้งแล้ว ชมจุดที่พระพุทธองค์ทรงตั้งจิตอธิฐานแล้วลอยถาดทวนน้ำในแม่น้ำแห่งนี้
จากนั้นคณะไป ช๊อปปิ้ง บริเวณพุทธคยา และเข้านมัสการไหว้พระที่เจดีย์พุทธคยาและต้นพระศรีมหาโพธิ์
อีกรอบหนึ่ง แล้วเดินทางลงใต้ไปยังเมือง โกลกัตต้า (Kolkata)
เพื่อรอขึ้นเครื่องบิน Jet Airways
เที่ยวบินที่
9w66 ประมาณ ตี 2 ถึงสุวรรณภูมิ 06.00 น.วันที่ 20 ก.พ. 56
มีรถจากบริษัทธรรมหรรษาทัวร์ มารับเดินทางกลับราชบุรี ด้วยความอิ่มไปด้วยบุญกันทุก
ๆ คน และขออนุโมทนาบุญมายังท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยครับ
นมัสเต