Thiti Boonyos : It's my photos.: พฤศจิกายน 2013

30 ต.ค. 2556 เป็นวันที่คณะเราจะเดินทางจากเมือง Innsbruck ไป เมืองหลวง Vienna คณะตื่นแต่เช้าจัดกระเป๋าเตรียมเดินทาง ลงไปกินอาหารเช้าห้องอาหารโรงแรม พอมีเวลาเดินเที่ยวแถว ๆ นั้นอีกรอบ ตอนเช้ามีฝนตก แต่พอสาย ๆ จึงหยุด Check out ออกจากโรงแรมประมาณ 10.30 น. เดินลากกระเป๋า ไปสถานีรถไฟ OBB ระยะทาง 400 เมตร รอรถไฟเที่ยว 12.09 น. รถไฟที่นี่มาตรงเวลา เป็นรถของ Railjet รถไฟความเร็วสูง ใช้เวลาเดินทางถึงเวียนนาประมาณ 4 ชั่วโมง ผ่านเมือง Salzburg ด้วย บางช่วงทางตรง รถไฟเร่ง Speed ถึง 230 ก.ม./ ช.ม. ทีเดียว แต่เฉลี่ยเห็นวิ่งอยู่ที่ 120 ก.ม./ช.ม. รถไฟมาถึงเวียนนาเวลาประมาณ 16.30 น. ลงปลายทางที่สถานีเดิมคือ West Bahnhof และจองที่พักไว้ที่โรงแรมเดิมที่มาวันแรกคือ Happy Hostel อากาศที่เวียนนาวันนี้ค่อนข้างหนาว ประมาณ 4-5 องศา พวกเราออกไปซื้อหาอาหารมากินกันที่โรงแรม แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน

ภายในโรงแรม ก่อนเดินทางมาเวียนนา

รถไฟความเร็วสูง จาก Innsbruck ไป Vienna

บนรถไฟ

ภายในรถไฟ

31 ต.ค. 2556 วันสุดท้ายใน Austria เดินเล่นตอนสาย ๆ แถว ๆ โรงแรมที่พัก ใกล้ ๆ สถานี West Bahnhof เสร็จแล้ว ซื้อตั๋วประเภท 24 ช.ม. คนละ 7.5 ยูโร เพื่อนั่งรถรอบเมือง นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Stephan เดินเล่นอีกพักใหญ่ แวะกินอาหารแถวนั้นแล้วนั่งรถรางบนดินสาย 2 เป็นรถวน นั่งไปสุดสาย แล้วนั่งกลับ ผ่านสถานที่ต่าง ๆ เห็นผ่านตลาดอยู่แห่งหนึ่งคณะเราจึงเดินลงไปเที่ยวซื้อของ จนค่ำจึงเดินทางกลับที่พัก

นั่งเล่นที่เวียนนา แล้วครับ

แถว ๆ ที่่ัพัก Happy Hostel

ซือตั๋วประเภท 24 ช.ม.นั่งรางไฟฟ้า ชมเมือง

เห็นคนเดินเยอะ แวะเดินชมตลาด

หน้าตลาด

ขึ้นป้ายโน้น มาลงป้ายนี้ เพลินดี ซื้อตั่ว 24 ช.ม.ไว้ ใช้ให้คุ้ม

1 พ.ย. 2556 ออกจากที่พัก ประมาณ 9.00 น. ฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรม แล้วนั่งรถใต้ดินไปแถวรัฐสภา เดินถ่ายรูปตึกโบราณ เดินเล่นจนได้เวลาเกือบบ่าย กลับไปเอากระเป๋า มาขึ้นรถบัส Airport Line ที่สถานี West Bahnhof ที่วิ่งไปยังสนามบินเวียนนา ตามเส้นทางที่เรามาวันแรก ค่ารถคนละ 7 ยูโร (ซื้อเป็น Group ถ้าซื้อเดี่ยว 8 ยูโร)

ผู้สูงอายุ สบาย ๆ ......

ผู้คนรักสัตว์

มาเก็บตกแถวโบสถ์ Stephan อีกรอบ

บนรถรางไฟฟ้าครับ

ตึก อาคาร แถว ๆ สถานนีรถไฟใต้ดิน VolkTheater

การทำ Tax Refun ที่สนามบินใน Austria คือเราต้องเตรียมแบบฟอร์มขอคืนภาษี จากร้านที่เราซื้อของให้พร้อม Check in ตั๋วเครื่องบินเข้าไป ผ่านการตรวจ Passport Control เข้าไปด้านใน ก่อนเข้า Gate ขึ้นเครื่อง จะมีช่อง ต.ม. เขียนว่า BMF Zoll/Custom เอาของให้ตรวจพร้อมแบบฟอร์ม ประทับตราแล้ว เดินย้อนกลับไปรับเงินจากช่องที่เขียนว่า CHANGE (อยู่ใกล้กัน) การคืนเงินจะคืนเป็นเงินสด US $

สายการบิน EVA Airway เที่ยวบินที BR062 ออกเวลา 19.30 น. ตามเวลาออสเตรีย ถึงสุวรรณภูมิ 11.00 น. เวลาประเทศไทย ด้วยความสวัสดิภาพครับ

28 ต.ค. 2556 ตื่นกันแต่เช้าตามเคย ลงมากินอาหารที่ครัวของโรงแรม Meininger ใน Salzburg เสร็จแล้วคณะออกไป Shopping ใกล้ โรงแรมเพราะเป็นวันจันทร์ ร้านขายของต่าง ๆ เริ่มเปิดหลังจากปิดมาสองวัน ได้เวลาประมาณ 10.00 น. Check out ออกจากโรงแรม และให้ทางโรงแรมช่วยเรียกแท๊กซี่ให้โดยระบุว่าควรเป็นแท๊กซี่คันใหญ่ที่นั่งได้ 8 คน จะได้ไปพร้อมกันทีเดียวที่สถานีรถไฟ Salzburg รอรถแท็กซี่ครึ่งชั่วโมง รถก็มารับ เป็นแท็กซี่แวนขนาดใหญ่ Benz Vito บรรจุกระเป๋าใหญ่ของพวกเรา และนั่งได้ครบ 8 คน พอดี บอกแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่สถานีรถไฟ Salzburg คนขับแท็กซี่ถามว่าเราจะไปที่ใด เราบอกว่าจะต่อรถไฟไป Innsbruck แท็กซี่เสนอว่า ให้เขาไปส่งไหมละ ถูกกว่าค่ารถไฟอีก เราดูราคารถไฟจากอินเตอร์เน็ตแล้วว่า ค่าตั๋ว 8 คน ไป Innsbruck รวมแล้ว 320 ยูโร แต่แท็กซี่เสนอราคาไว้ที่ 250 ยูโร เราเลยตกลง โชคดีด้วยไม่ต้องขนกระเป๋าลากไปลากมา แท็กซี่ไปส่งให้ถึงโรงแรมที่ Innsbruck เลย ใช้เวลาวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง แท็กซี่พาวิ่งเข้าทางลัด ถนนผ่านเข้าไปในเยอรมันบางส่วนด้วย โรงแรมใน Innsbruck ที่จองไว้ชื่อ Goldene Krone อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก อยู่กลางเมือง พอคณะ Check in ที่โรงแรมแล้วพวกเราเดินชมเมืองเก่าแวะถ่ายรูปเดินชมเมืองกันจนใกล้ค่ำ จึงกลับพักผ่อน

เส้นทางไป Innsbruck

สองข้างทางไป Innsbruck

บางช่วงต้องลอดภูเขา

บางช่วงถนนต้องผ่านดินแดนประเทศเยอรมัน เพราะเขตติดกัน

ส่วนใหญ่เป็นทุ่งกว้าง ปลูกหญ้าเลื้ยงสัตว์ วัว ม้า แกะ

แวะพักที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ข้างโบสถ์คริส เล็ก ๆ

กับแท๊กซี่คันที่มาส่งเรา คนขับถ่ายภาพให้

เข้าเขตเมือง Innsbruck

ด้านซ้ายเป็นซุ้มประตูเมือง ด้านขวาเป็นโรงแรม Goldence Krone ที่คณะพวกเราพัก

ได้พักชั้นที่ 3 บนสุด ห้องมุมที่เห็นหน้าต่างนั่นแหละครับ วิวดีซะด้วย

ห้องพัก 4 คน ครับ

นี่อีก 2 เตียง

บรรยากาศเมืองเก่าใน Innsbruck

จตุรัสแถวเมืองเก่า ด้านหลังเป็นตึกหลังคาทอง

หลังคาทอง มีประวัติความเป็นมา แต่ไม่ได้ศึกษารายละเอียด

Innsbruck มีรถม้าบริการรนักท่องเที่ยว เหมือนเกือบทุกเมือง

ใน Innsbruck อีกมุมถนน

ที่ทำการสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง

เดินมาถึงสวนสาธารณะ แวะพักเหนื่อย

มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง

น้ำเป็นสีขาว คราม ขุ่น ๆ ลักษณะเหมือน หิมะละลายจากภูเขา

29 ต.ค. 2556 วันที่สองใน Innsbruck กินอาหารเช้าของโรงแรม สาย ๆ ของวันนี้คณะเดินจากโรงแรม Goldene Krone เดินตรงไปยังชุมทางรถ OBB ประกอบด้วยรถไฟ รถราง รถบัส เป็นชุมทางอยู่ที่นี่ ห่างออกไปจากโรงแรมประมาณ 400 เมตร เพื่อที่จะไปขึ้นรถบัส เข้าชมโรงงานของ Swarovski ผู้ผลิตเครื่องประดับ อัญมณี ชื่อก้องโลก มีโรงงานอยู่ที่ Innsbruck ผู้ที่มาเที่ยวเมืองนี้ต้องไม่พลาด รถออกเป็นเวลาชั่วโมงละคัน รถบัสสีเขียว เขียนข้างรถว่า Kristall Welten น่าจะเป็นรถของโรงงาน Swarovski ซื้อตั๋วบนรถ ไป-กลับ คนละ 20 ยูโร ระยะทาง 25 ก.ม. ทีแรกคิดว่าทำไมค่ารถแพงนัก ปรากฏว่าไปถามที่ขายตั๋วหน้า Swarovski บอกว่า รวมค่าเข้าชมนิทรรศการของโรงงานด้วยแล้ว โดยนำตั๋วรถไปแสดงที่ห้องขายตั๋ว จะเปลี่ยนเป็นบัตรเข้าชมโรงงานให้คนละใบ ภายในจัดแสดงเป็นห้อง ๆ เกี่ยวกับคริสตัล ผลิตภัณฑ์ของโรงงาน สุดท้ายจบด้วยร้านขายของ เป็นอัญมณีของ Swarovski ตามนิสัยคนไทยครับ เจอที่ไหน ช๊อปที่นั่นตามระเบียบ กลับเข้าเมืองด้วยรถบัสเดิม มาลงที่ชุมทาง OBB แวะจองตั๋วรถไฟไป Vienna ค่ารถปกติคนละ 62.50 ยูโร แต่ถ้าซื้อเป็น Group จะลดลงมาให้เหลือคนละ 51 ยูโร จองเที่ยว 12.09 น. ของวันที่ 30 ต.ค. 2556 เสร็จแล้วเดินเล่นใน Oldtown กันเล็กน้อย แวะซื้ออาหารมากินกันที่โรงแรม